การถมดิน

หลักจากได้ที่ดินที่ต้องการแล้ว ก็คงต้องมีการปรับความสูงดินให้เหมาะสมครับ หลักๆ ก็พอสรุปไม่ให้น่าเบื่อได้ประมาณนี้ครับ


– กรณีที่ดินขนาดเล็ก เช่น 50 – 100 ตร.วา คงถมให้สูงที่สุดที่จะทำได้ เพราะยิ่งสูงก็ยิ่งดีครับ เอาไว้หนีน้ำท่วม (ถ้าเกิดขึ้นอีกเหมือนปี 54) หรือ ถนนหน้าบ้านที่ทางการมักจะยกสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีงบซ่อมแซมถนนใหม่ บ้านเราจะได้ไม่ต่ำกว่าถนน ซึ่งจะทำให้น้ำจากถนนจะไหลเข้าบ้านเรา ทำให้ระบายน้ำขังได้ช้า อีกทั้งถ้าบ้านเราต่ำกว่าถนนหน้าบ้านมากๆ จะทำให้เราระบายน้ำเสียจากถังบำบัด และบ่อดักไขมัน ออกนอกบ้านได้ยากในเวลาปกติ และในเวลาฝนตกหนัก น้ำในท่อระบายน้ำเสียที่ถนนหน้าบ้านจะไหลย้อนเข้าบ้าน เป็นผลให้ส่งกลิ่นเน่าเหม็นภายในบริเวณบ้านได้

– ทั้งนี้คำว่า “สูงที่สุดที่จะทำได้” หมายความว่า เป็นความชันที่ไม่เกินที่รถยนต์จะขับขึ้นจอดในที่จอดรถภายในบ้าน ได้ เอาเป็นว่า ไม่น่าจะมีความชันเกิน 30 องศา สำหรับรถเก๋งที่ไม่ติดสเกิร์ต (ของผม วีออส ขึ้นสบายครับ) อนึ่งมักเป็นความชันจากถนนเข้าประตูบ้านนะครับ เพราะส่วนใหญ่ถ้าผ่านประตูมาแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร

– กรณีที่ดินขนาดใหญ๋กว่า 100 ตร.วา ยิ่งถ้ามีการจัดที่จอดรถเป็นการเฉพาะก็สบายครับ คงถมดินสูงตามกำลังทรัพย์ และไม่เด่นเกินบ้านระแวกเดียวกันมากเกิน (เดี๋ยวโดนเขม่น เพราะทำให้บ้านเค้าดูเตี้ยลง)

– สุดท้ายครับ ได้จากประสบการณ์ตนเองเช่นกัน ผมว่าการถมดินก่อนสร้างบ้าน น่าจะให้สูงแค่ ที่ตั้งใจ ลบด้วย 50 ซม. ครับ เพราะว่าระหว่างสร้างบ้านไปแล้ว เราจะได้ดินที่จะงอกเพิ่มมาจากฐานราก และคานคอดิน อีกพอควรเลยครับ เดียวจะไม่มีที่วางดินที่ขุดขึ้นมาครับ อีกทั้งพอบ้านสร้างเสร็จแล้ว เราจะได้มีพื้นที่เพื่อจะซื้อหน้าดินดีๆ มาลงเพื่อปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าได้ครับ

– ส่วนดินที่ใช้ถมก่อนก่อสร้าง ผมว่าเลือกดินชั้นสอง (ดินที่ลึกลงไปกว่า 30 ซม. เป็นต้นไป) ก็น่าจะพอครับ เพราะถ้าใช้หน้าดินจะมีราคาแพงครับ และจริงๆ แล้ว ผู้รับเหมาดินก็มักจะเอาดินชั้นสอง มาหลอกขายเราว่าเป็นหน้าดินอยู่แล้วครับ จะเสียเงินโดยไม่จำเป็น (ผมก็โดนมาแล้วครับ) เอาไว้ตอนที่จะปรับดินตอนบ้านเสร็จแล้วค่อยใช้หน้าดินครับ

– ส่วนรายละเอียดพื้นฐานอื่นๆ ลองดูที่เว๊ปนี้ ผมว่าละเอียดดีแล้วครับ http://www.land.co.th/land-info-top-13.asp

Message us
error: Content is protected !!