4 ทางเลือก สำหรับบ้านเก่าไม่มีสายดิน

4 ทางเลือก สำหรับบ้านเก่าไม่มีสายดิน

ทำอย่างไร สำหรับบ้านเก่า ที่ไม่มีสายดิน และหลักดิน (Ground Rod) ?

เนื่องจากการติดตั้งของช่างไฟฟ้าในอดีตยังไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับสายดินกันสักเท่าไหร โดยสายดินมีส่วนสำคัญในด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการกระแสไฟฟ้ารั่วจากอุปกรณ์ไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายของผู้อยู่อาศัยซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ 2 อย่างในระบบไฟฟ้า ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่เราได้ คือ สายดิน และเครื่องกันไฟดูด

1. สายดิน

สายดิน คือ สายที่เดินไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูดแล้วได้รับอันตราย อันเนื่องมาจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายลงสู่ดิน โดยปลายด้านหนึ่งของสายดินจะต่อเข้ากับหลักดิน (Ground Rod) ที่ปักลงดินตามมาตรฐานการไฟฟ้าฯ

      ประโยชน์ของสายดิน คือ

  • ป้องกันไฟฟ้าดูดเมื่อมีกระแสไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • ป้องกันหากเกิดแรงดันผิดปกติขึ้นในระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ฟ้าผ่า
  • เพื่อการทำงานที่สมบูรณ์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

2. เครื่องกันไฟดูด

เครื่องกันไฟดูด หรือ เครื่องตัดไฟรั่ว คือ เครื่องที่ทำหน้าที่ตัดไฟในกรณีที่พบว่ากระแสไฟฟ้าบางส่วนรั่วหายไป โดยมาตรฐานจะกำหนดที่ 30 mA ของกระแสที่หายไฟ แล้วเครื่องกันไฟดูดจะตัววงจรทันที

     เครื่องกันไฟดูด มีประโยชน์ อย่างไร

  • ป้องกันอันตรายจากไฟดูด ไฟรั่วไหลผ่านร่างกาย
  • ป้องกันอัคคีภัย ในกรณีที่มีไฟรั่วลงดินที่อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือสายไฟฟ้าเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้

โดยทั้ง 2 อุปกรณ์จะทำงานร่วมกัน ดังนี้

กรณีมีไฟรั่วที่โครงอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น ติดตั้งเครื่องกันไฟดูดไม่ติดตั้งเครื่องกันไฟดูด
มีสายดิน
"ตัดก่อนดูด"

เครื่องกันไฟดูดจะตัดทันทีโดยผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ถูกดูด
"ไม่ดูด ไม่ตัด"

ไฟที่รั่วจะลงไปที่สายดิน
โดยผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ถูกดูด
ไม่มีสายดิน
"ดูดก่อนตัด"

เครื่องกันไฟดูดจะตัด
หลังจากผู้ใช้ไฟฟ้าถูกดูดก่อน
"ดูด ไม่ตัด"

ไฟที่รั่วจะผ่านร่างกายผู้ใช้ไฟฟ้าลงดิน และเบรคเกอร์กันกระแสไฟเกินไม่ตัด

โดยสรุปจากตาราง จะเห็นได้ว่า "ตัดก่อนดูด" เป็นสิ่งที่ดีที่สุด คือมีทั้งสายดิน และเครื่องกันไฟดูด หรืออย่างน้อยก็ควรมี 1 อย่าง ไม่สายดิน ก็เครื่องกันไฟดูด (แต่แนะนำว่าควรมีทั้งคู่)

มาถึง "4 ทางเลือก สำหรับบ้านเก่าที่ไม่มีทั้งสายดิน และเครื่องกันไฟฟ้าดูด"

ทั้งนี้ในกรณีระบบไฟฟ้าในบ้านเก่าที่ในปัจจุบัน ไม่มีทั้งระบบสายดิน และเครื่องกันไฟดูด ทางวิศวกรไฟฟ้าจาก Home Check Up ขอนำ 4 ทางเลือกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยตามตารางดังนี้

ลำดับวิธีการค่าใช้จ่ายหมายเหตุ
1เปลี่ยนเบรคเกอร์เมนเป็นแบบกันไฟฟ้าดูด และกันไฟฟ้ารั่วราคาประมาณ 5000 บาทต่อตัววงจรแอร์อาจจะตัดบ่อยๆ เนื่องจากอาจมีความชื้นเวลาแอร์ทำงานได้
2ติดตั้งเบรคเกอร์ย่อย แบบกันไฟฟ้าดูด และกันไฟฟ้ารั่ว (RCBO) ที่วงจรที่ต้องการ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น และเต้ารับไฟฟ้าราคาประมาณ 2000 บาท ต่อตัวค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าข้อ 1 โดยจะขึ้นกับจำนวนวงจรย่อยที่ต้องการติดตั้ง
3เปลี่ยนเฉพาะตู้เมนไฟฟ้าเป็นแบบที่รองรับการติดตั้งสายกราวด์ พร้อมติดตั้งหลักดิน และเดินสายกราวด์ไปยังวงจรที่ต้องการ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น และเต้ารับไฟฟ้าราคาขึ้นกับยี่ห้อ และขนาดตู้เมนไฟฟ้า และชนิดของหลักดินค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าข้อ 2
4เปลี่ยนสายไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้า และเบรคเกอร์ใหม่ทั้งหมดขึ้นกับขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน และอาคารมีค่าใช้จ่ายแพงที่สุด แต่เหมาะสม และปลอดภัยที่สุด

โดยจากทั้ง 4 แนวทาง ได้เรียงตามลำดับ ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ จากถูกมาสู่แพงตามลำดับ ไว้เรียบร้อยแล้ว ลองเลือกกันดูตามงบประมาณที่มีครับ (แต่ยังคงแนะนำให้เดินระบบไฟฟ้าใหม่นะครับ เพราะบ้านเก่ามากแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ก็เริ่มหมดอายุการใช้งานละครับ)

*หมายเหตุ ราคาอุปกรณ์ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด / ราคาที่ระบุเป็นราคาโดยประมาณ และไม่ได้รวมค่าแรง

 

ขอยกตัวอย่างการออกแบบวงจรไฟฟ้าที่มีการใช้งานเครื่องกันไฟดูดมาให้ดูกันครับ

ทั้งนี้ภายในตู้เมนไฟฟ้าจะมีการติดตั้งสายดินอยู่ด้วย เพื่อทำงานร่วมกันแบบ "ตัดก่อนดูด"

ตัวอย่างตู้เมนไฟฟ้าออกแบบเครื่องกันไฟดูด

Message us
error: Content is protected !!